วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ปลาแรดขอชีวิต

ปลาแรดตัวนี้ผมได้มาหลายวันแล้ว เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 1 เมษา 2557 หลังจากออกกำลังกายตอนเช้าแล้วผมก็ไปจ่ายตลาดที่ตลาดสดเทศบาลนครยะลา ไปเจอปลาแรดตัวนี้เข้า

แม่ค้าชาวบ้านเอามาขาย มันนอนอยู่บนผืนพลาสติก ผมเห็นตัวมันโตมากแบบไม่เคยเห็นมาก่อนและดูว่ามันนอนนิ่งสนิทก็คิดว่ามันตายแล้วจึงสนใจจะเอาไปทำกับข้าวกิน แต่ผมทำกับข้าวยังไม่ค่อยเป็น จึงถามแม่ค้าว่าเอาไปทำอะไรกิน เขาบอกว่าปลาตัวโตแบบนี้ทำอะไรก็อร่อย

ขณะกำลังจะตกลงซื้อ เหมือนกับปลามันจะรู้เรื่อง มันค่อยๆยกคลีบข้างลำตัวขึ้นอย่างช้าๆแบบอ่อนแรงเต็มที เพื่อจะบอกว่า " ผมยังไม่ตาย ช่วยผมด้วย  " ผมเหลือบไปเห็นเข้าพอดี และดวงตาโตๆของมันก็มองมาที่ผมด้วย "ฉิบหาย ปลายังไม่ตาย"ผมอุทานในใจ ผมไม่อยากฆ่าสัตว์ เพราะตอนเด็กๆเคยฆ่ามาเยอะแล้วจึงตัดสินใจไม่เอาเดินต่อไปหาซื้อของอย่างอื่น

ขากลับเดินผ่านปลาตัวนี้อีกที จังหวะนั้นเองมันก็ทำปากพงาบๆอีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับจะพูดว่า "ช่วยผมด้วย ผมใกล้หมดลมหายใจแล้ว" ผมตัดสินใจไม่มองเดินต่อไปหาซื้อของอย่างอื่นต่อ แต่ในระหว่างที่เดินไปนั้นใจมันก็เริ่มคิด หรือนี่คือการส่งสัญญานร้องขอให้ช่วยชีวิตจริงๆ เพราะในระยะหลังมานี่ผมอ่านเจองานวิจัยที่พบว่าสิ่งมีชวิตหลายชนิดมันฉลาดกว่าที่มนุษย์คิด ถ้าเขาส่งสัญญานมาขอให้ช่วยจริงๆแล้วทำไมเราไม่ช่วย

ยิ่งคิดผมยิ่งเขว มันเป็นปลาตัวใหญ่มากด้วย สัตว์อะไรก็ตามถ้าจับมาได้ที่ตัวใหญ่มากๆคนโบราณจะห้ามทำร้าย แต่ให้ปล่อยเขาไป ผมจึงกลับไปหาแม่ค้าปลาอีกที ไปยืนพิจารณาดู ปลาตัวนี้อายุมากจริงๆ ถ้าเป็นคนมันคงมีอายุพอๆกับเรา ถ้าเอากลับไปบ้าน ระยะทางประมาณ 2 กิโล นี่มันก็อ่อนแรงเต็มทีแล้ว ยังต้องจอดแยกไฟแดงก่อนจะถึงบ้านอีก 8 แยก แล้วมันจะตายเสียก่อนไหมนี่

แต่ก็คิดว่าเอาเถอะช่วยไว้ก่อน เป็นตายก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่ได้ช่วยเขาวันนี้มันคงจะคาใจไปอีกนาน จึงตัดสินใจซื้อ แม่ค้าชั่งน้ำหนัก 3 กิโลครึ่ง จ่ายเงินไป 380 บาท รีบอุ้มมาใส่ตะกร้าหน้ารถมอไซด์คันเก่าๆ รีบขับกลับบ้าน เจอไฟเขียว 6 ทางแยก เจอไฟแดง 2 ทางแยกแต่ผมไม่หยุด ดูซ้ายดูขวาแล้วไม่มีจราจรและเส้นทางก็ปลอดภัย จึงตัดสินใจขับรถฝ่าไฟแดง โดยคิดแบบเข้าข้างตัวเองว่า ผมอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทีรถกู้ชีพอื่นๆฝ่าไฟแดงได้เพื่อเหตุผลด้านมนุษยธรรม ผมก็ควรจะฝ่าได้บ้างแบบนานๆครั้งด้วยเหตุผลด้านสัตวธรรม

เมื่อถึงบ้านแล้วผมรีบเอาลงอ่างล้างจานรีบเปิดน้ำ รอดูจนเห็นว่าเขาเริ่มขยับครีบข้างลำตัว เริ่งโบกหาง บ่งบอกถึงว่ายังไม่ตาย ผมจึงรีบลงไปหน้าบ้าน เปิดน้ำใส่ตุ่ม อุ้มเขาลงไปใส่ในตุ่มน้ำ เขานอนตะแคงแต่ค่อยๆเอียงตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ ค่อยๆยกหัวขึ้นมาเหนือน้ำเพื่อสูดอากาศ พอจมหัวลงไปก็มีฟองอากาศออกมาจากเหงือกเป็นฟองปุดๆๆหลายฟอง

ผมสบายใจและมั่นใจว่าเขารอดแล้ว จึงรีบไปถอนผักบุ้งในคูน้ำหน้าบ้านมาใส่ให้ และหลังจากนั้นผมจะคอยดูแลเขาทุกวัน แม้ตุ่มน้ำขนาดจะไม่โตมากแต่ก็รู้สึกว่าเขาจะมีความสุข เขาอยู่กับผมมาจนถึงวันนี้ก็นับได้ 8 วันแล้ว สงกรานต์นี้ผมจะนำเขาไปปล่อยที่แหล่งน้ำขนาดใหญ่มีอาหารปลาอุดมสมบูรณ์ และมั่นใจว่าเขาจะอยู่อย่างมีความสุขไปตลอดอายุขัย เพราะแหล่งน้ำที่ว่าเป็นเขตอภัยทานที่ชาวบ้านและพระร่วมใจกันดูแลอ่างดี มีนักท่องเที่ยวไปให้อาหารปลาอยู่เป็นครั้งคราว คิดว่าผมได้ทำดีที่สุดแล้ว ทำแล้วก็มีความสุข สงกรานต์นี้ไปปล่อยปลากันนะครับ

ที่มา https://www.facebook.com/photo.php?fbid=601239806619585&set=a.382042568539311.89121.100002007134610&type=1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น